เครื่องบินขับไล่ล่องหน J-20 เครื่องบินขับไล่ล่องหนที่พัฒนาภายในประเทศรุ่นล่าสุดของจีน
กองทัพอากาศกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) กำลังใช้หน่วยรบชั้นยอดเพื่อฝึกนักบิน J-20 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนที่พัฒนาภายในประเทศรุ่นล่าสุดของจีน โดยมีระบบการต่อสู้ที่ซับซ้อน โดยที่เครื่องบินขับไล่ล่องหน J-20 ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องบินขับไล่เท่านั้น แต่ยังเป็นหน่วยบังคับการทางอากาศได้ด้วย J20 Stealth Fighter ใช้ชื่อโครงการว่า J-XX เริ่มต้นการวิจัยและพัฒนาในทศวรรษที่ 1990 โดยเริ่มต้นทำการทดสอบการบินในช่วงปลายปี 2010 กับเครื่องต้นแบบ J-XX เป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบล่องหนที่สามารถปฏิบัติการบินทางยุทธวิธีได้หลากหลาย เช่นเดียวกับเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-22 และ F-35 ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ด้วยความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีการบิน J20 Stealth Fighter จึงกลายเป็นเครื่องบินรบในยุคที่ 5 ที่มีเทคโนโลยีล่องหนหรือ Stealth เช่นเดียวกับ F-22 แร็พเตอร์, F-35 ไลท์นิ่ง 2 ของสหรัฐอเมริกา และ ซุคฮอย T-50 ของรัสเซีย โดย J20 Stealth Fighter สามารถบรรทุกอาวุธและเชื้อเพลิงได้มากกว่า F-22 และมีพิสัยทำการรวมถึงการโหลดอาวุธได้มากกว่าเครื่อง F-22 ทำให้ภารกิจของเครื่องบินขับไล่ J20 Stealth Fighter มีความหลากหลายมากกว่า ทั้งการบินระยะไกลและการบรรทุกอาวุธ.
โครงสร้างของเครื่องบินขับไล่โจมตีเทคโนโลยีล่องหนของแดนมังกรลำนี้ ดูคล้าย F-22 Raptor เครื่องบินขับไล่ J-20 มีรูปทรงที่สะท้อนต่อเรดาร์ตรวจจับด้วยเทคโนโลยีล่องหน ลำตัวโค้งมน มีโครงสร้างที่ยื่นออกมาเล็กน้อย ในจุดที่ต้องการสะท้อนการตรวจจับของเรดาร์ ช่องเก็บอาวุธถูกซ่อนอยู่ภายในลำตัว ติดตั้งระบบเรดาร์ตรวจจับแบบ Active Electronically Scanned Array (AESA) เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง J-20 และ F-35 โครงเครื่องยนต์แฝดของ J-20 ดูคล้ายกับ F-22 นอกจากนี้ โครงสร้างปีกคู่ของ J-20 แตกต่างจากการออกแบบของ F-22 หรือ F-35 เล็กน้อย เนื่องจากปีกคู่ของมันยาวกว่าและใหญ่กว่าเครื่องบินรบยุคที่ 5 ของสหรัฐฯ
J-20 นั้นยาวกว่า F-22 เกือบห้าเมตร ความแตกต่างที่ขนาดและน้ำหนัก J-20 มีน้ำหนักบรรทุกสูงสุดในการขึ้นบินและความจุเชื้อเพลิง เหนือกว่า F-22 ความยาวของ J-20 ที่ 23 เมตร เทียบกับ 18.9 เมตรของ F-22 ที่สั้นกว่ามาก พิสัยบินก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากขนาดและความสามารถในการบรรทุกเชื้อเพลิงส่งผลให้เกิดความแตกต่างของระยะทางบินปฏิบัติการอย่างมาก J-20 บินด้วยความจุถังเชื้อเพลิง 4,166 แกลลอน เทียบกับ 2,400 ของ F-22 แล้ว เครื่องของจีนบรรทุกเชื้อเพลิงได้มากกว่าถึงสองเท่า ความเหลื่อมล้ำนี้ส่งผลให้เกิดความแตกต่าง เนื่องจาก J-20 พร้อมถังเชื้อเพลิงสำรอง มีพิสัยทำการไกลกว่า F-22 เกือบ 3,000 กิโลเมตร J-20 สามารถบินเดินทางได้ไกลถึง 5,926 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทำการที่ทำให้เกาะไต้หวันอยู่ไม่ไกลจากจีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่ F-22 มีพิสัยทำการที่ 2,963 กิโลเมตร (พร้อมถังเชื้อเพลิงสำรอง) อย่างไรก็ตาม แม้ถังเชื้อเพลิงสำรองติดตั้งภายนอกจำนวนสองถัง ทำให้ F-22 สามารถบินได้ไกลขึ้น แต่การติดถังเชื้อเพลิงสำรองจะทำให้เครื่อง F-22 มีความสามารถด้านการล่องหนลดลงอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว พิสัยบินสูงสุดของ J-20 หมายความว่ามันอาจบินได้ไกลกว่ามากด้วยถังเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ แต่การบรรทุกเชื้อเพลิงจำนวนมาก ก็บั่นทอนขีดความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิตและการทำความเร็วเช่นกัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2022 (พ.ศ.2565) กองทัพอากาศ PLA ประกาศว่า เครื่องบินขับไล่ล่องหน J-20 ได้รับการบรรจุเข้าประจำการเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และเครื่องบินล่องหนดังกล่าวได้ถูกส่งไปยังศูนย์บัญชาการของกองบัญชาการภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาตตะวันตก ภาคเหนือ และภาคกลาง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่กองทัพอากาศ PLA จะต้องมีนักบินเพียงพอที่สามารถรองรับเครื่องบินรบที่ทรงพลังที่สุดของประเทศ ซึ่งนอกจากจะเน้นการต่อสู้ การสกัดกั้น การโจมตี และการวางระเบิดทางยุทธวิธีแล้ว เครื่องบินขับไล่ล่องหน J-20 ได้รับบทบาทใหม่ในฟังก์ชั่นการเตือนล่วงหน้าและการควบคุมทางอากาศด้วยระบบเซ็นเซอร์และระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย จึงต้องมีการฝึกอบรมนักบินที่เข้มข้นมากขึ้น
ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.globaltimes.cn/page/202402/1307154.shtml
The J-20 stealth fighter jet is China’s latest domestic stealth fighter.
The Chinese People’s Liberation Army (PLA) is using elite combat units to train J-20 pilots, China’s latest internationally developed stealth fighter. With a complex combat system, the J-20 stealth fighter is not only an fighter jet. But it is also an air control unit. J20 Stealth Fighter uses the project name J-XX. It began research and development in the 1990s, starting with flight tests in late 2010 with the prototype. J-XX is an invisible fighter that can perform a variety of tactical flights as well as stealth fighter jets F-22 and F-35 of the United States Air Force. With advances in aviation technology, the J20 Stealth Fighter became a fifth-generation fighter with stealth technology or Stealth as well as the F-22 Raptor, The US F-35 Lightning 2 and Russia’s Sukhoi T-50 can carry more weapons and fuel than the F-22 and have a greater range of weapon loading than the F-22s, making the J20 Stealth Fighter’s mission more diverse, both long-distance flight and weapons loading.
The structure of this Dragon’s stealth technology fighter looks like the F-22 Raptor. The J-20 fighter is shaped to reflect the stealth technology radar. Its curved body has a slightly protruding structure at a point where it wants to reflect radar detection. The weapon casing is hidden inside the body, equipped with an Active Electronic Scanned Array radar system. (AESA) Compared between J-20 and F-35, the J-20 twin engine projection looks similar to the F-22. In addition, the J-20 dual wing structure is slightly different from the design of the F-22 or F-35 because its twin wings are longer and larger than that of US 5th-generation fighter jets.
The J-20 is almost five meters longer than the F-22 and the difference in size and weight is J20. It has a maximum take-off weight and fuel capacity above the F-22; J-20’s length is 23 meters compared to 18.9 meters of the much shorter F-22; its range is completely different because its size and capacity results in a large difference in operating flight distance. The J-20 flies with a fuel tank capacity of 4,166 gallons compared to 2,400 of the F-22s already carry twice as much fuel. This gap results in a difference because the J-20 with a spare fuel tank is almost 3,000 kilometres longer than the F-22s. The J-20 can fly 5,926 kilometres, which makes Taiwan not far from mainland China, while the F-22s are in range 2.963 km (with spare fuel tank) howHowever, although two external auxiliary fuel tanks allow the F-22 to fly further, the attachment of the auxiliary fuel tank will significantly reduce the stealth capability. In comparison, the maximum range of J-20 means it may fly much further with a large fuel tank. But carrying a lot of fuel. It also undermines the ability to fight cognitive and speed.
Jehovah’s Witnesses, 11 / 22In 2565 B.E., the PLA Air Force announced that more and more stealth fighter jets have been deployed and the stealth aircraft has been dispatched to the headquarters of East, South, West, North and Central Command. It is therefore important that the PLA Air Force have enough pilots to accommodate the nation’s most powerful fighter jets. Apart from focusing on combat, intercept, attack and tactical bombing, the J-20 stealth fighter has played a new role in advanced sensor and computer-based prewarning functions.