ตำรวจท่องเที่ยวรวบไกด์เถื่อนทุกพื้นที่ในแหล่งท่องเที่ยว หวั่นกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย
พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.และ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.สั่งการ รวบไกด์เถื่อนทุกพื้นที่ในแหล่งท่องเที่ยว หวั่นกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา ณ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เลขที่ 999 หมู่ที่ 1 ถนนสุวรรณภูมิ 4 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.และ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. เผยว่า จากนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.มีคำสั่งให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวเป็นหน่วยงานหลัก ในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามกวาดล้างอาชญากรรม และการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อ ภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในภาพรวม ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ขานรับนโยบายจึงเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ระดมกวาดล้างอาชญากรรมในฐานความผิด 10 กลุ่มต้องห้าม และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำความผิด ที่ส่งผลกระทบต่อ ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในภาพรวม ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย
จากการเปิดปฏิบัติการในห้วงเวลาตั้งแต่วันที่ 10 -14 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 ที่ผ่านมามีผลการจับกุมไกด์เถื่อนในภาพรวมของทาง บช.ทท.ทั้งหมดจำนวน 468 ครั้ง โดยจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 479 คน
และในผลการจับกุมที่น่าสนใจ ทางกองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ได้จับกุมผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 โดยจับกุมได้ในพื้นที่พัทยา และบริเวณวัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยมีดังนี้
– ไกด์เถื่อน สัญชาติอินเดีย จำนวน 3 ราย
– คนไทยที่ยินยอมให้ผู้อื่นทำหน้าที่แทนตน จำนวน 6 ราย
– สัญชาติอินเดีย เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 1 ราย
– ไกด์เถื่อน สัญชาติจีน จำนวน 3 ราย รวมจำนวน 13 ราย
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน และนักท่องเที่ยว
หากพบเห็นผู้กระทำความผิด สามารถแจ้งเหตุได้ที่ สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 หรือทางแอพพลิเคชั่น Tourist Police i lert u หรือสถานีตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ทันที ตำรวจท่องเที่ยวยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง