สถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล และการช่วยเหลือแรงงานไทย กระทรวงการต่างประเทศ
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับแรงงานไทยในเหตุการสู้รบกันระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลที่ปะทุขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. นับได้ว่ามี “ความร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่ง” นับตั้งแต่คนไทยเริ่มเข้าไปทำงานในอิสราเอลเมื่อ 40 ปีที่แล้ว การช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลเป็นไปอย่างล่าช้าหรือไม่ มีคนไทยที่เดินทางกลับประเทศเกือบ 1 พันคน จากผู้ที่แสดงเจตจำนงจะเดินทางกลับประเทศเกือบ 8,000 คน ยอดผู้เสียชีวิตคนไทยในอิสราเอล อยู่ที่ 30 ราย ขณะที่ยังมีคนไทยอีก 17 คนถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน
สรุปการแถลงข่าวในประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล โดยอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ประจำวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2566 ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ มีดังนี้
1. พัฒนาการสถานการณ์ กลางดึกเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) มีรายงานข่าวการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่ รพ. อัล-อาห์ลี อัล-อาราบี (Al-Ahli al-Arabi) ในฉนวนกาซา ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยรายและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ขอแสดงความเสียใจอย่างใหญ่หลวงต่อเหตุการณ์การสูญเสียครั้งนี้
2. ความคืบหน้าผลกระทบต่อคนไทยในพื้นที่ ภาพรวม (สถานะ ณ คืนวันที่ 18 ต.ค. 2566)
2. 1 ผู้เสียชีวิต 30 ราย (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
2.2 ผู้บาดเจ็บ 16 ราย (ไม่เปลี่ยนแปลง)
2.3 ผู้ที่คาดว่าถูกควบคุมตัว จำนวน 17 ราย (ไม่เปลี่ยนแปลง)
3. การดำเนินการล่าสุด ได้ดำเนินเที่ยวบินอพยพแล้ว 7 เที่ยวบิน ขนส่งคนไทยจำนวน 926 คนกลับประเทศไทย โดยเที่ยวบินล่าสุดได้เดินทางถึงไทยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (17 ต.ค.) ด้วยสายการบิน EL AL พร้อมคนไทย 162 คน และเมื่อเช้านี้ (18 ต.ค.) คนไทยอีก 266 คน ได้เดินทางถึงไทยโดยเที่ยวบินของสายการบินไทย (หมายเหตุ: จำนวนคนไทยที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กลับไทยกับจำนวนคนไทยที่เดินทางกลับไทยจริงมีความแตกต่างกันเนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ ผู้ลงทะเบียนตัดสินใจไม่เดินทางกลับหรือไม่สามารถเดินทางมายังสนามบินได้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ จะติดตามต่อไป)ในวันที่ 19 ต.ค. 2566 จะมีเที่ยวบินอพยพคนไทยอีก 2 เที่ยวบิน เดินทางถึงไทย ครั้งที่ 8 จำนวน 80 คน โดยสายการบิน EL AL ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 19 ต.ค. 2566 ครั้งที่ 9 จำนวน 145 คน โดยเครื่องบิน ทอ. ถึง บน.6 ในวันที่ 19 ต.ค. 2566.
นอกจากนี้ ยังมีภาคเอกชนส่งสิ่งของไปช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น บริษัท Thai Bev บริจาคน้ำดื่ม 250 แพ็ค และบริษัท Retail business centre และการบินไทย บริจาคถุงยังชีพ จำนวน 3,000 ถุง ซึ่งจะส่งไปทั้งผ่านเครื่อง ทอ. และเครื่องการบินไทยต่อไป
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดให้คนไทยเข้าศูนย์พักพิงโรงแรม David InterContinental Hotel แล้วจำนวน 593 คน เพื่อเตรียมเดินทางกลับไทยต่อไป ทั้งนี้ ได้จัดให้คนไทยพักในโรงแรมทั้งหมด 7 แห่งเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานงานกับนายจ้างและทางการอิสราเอลและยังได้เดินทางไปรับคนไทยในพื้นที่มายังศูนย์พักพิงต่าง ๆ ทั้งนี้ ขอขอบคุณพี่น้องคนไทยในพื้นที่ด้วยที่ได้มีส่วนช่วยเหลือพี่น้องแรงงานไทย ทางการไทยเร่งจัดเที่ยวบินตรงกรุงเทลอาวีฟ-กรุงเทพฯ เพื่อขนส่งคนไทยกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 22ต.ค. เป็นต้นไป ได้เตรียมจ้างเหมาเครื่องบินขนาดใหญ่เพื่อรับคนไทยกว่า ๖๐๐ คนต่อวันจากกรุงเทลอาวีฟไปยังเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเปลี่ยนเครื่องเดินทางกลับไทยด้วยเที่ยวบินจากกองทัพอากาศ การบินไทย นกแอร์ แอร์เอเชีย และไทยไลออนแอร์ จึงขอขอบคุณทุกสายการบินที่เข้าร่วมภารกิจนี้
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ได้ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นและพร้อมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางเพื่อเปลี่ยนเที่ยวบินและดำเนินงานเอกสารที่เกี่ยวข้องสำหรับเดินทางกลับไทยต่อไป คาดว่าภายในสิ้นเดือน ต.ค. หรือต้นเดือน พ.ย. จะสามารถนำคนไทยกลับประเทศได้ตามที่เคยกำหนดไว้
ในเรื่องการขออนุญาตเส้นทางบินผ่านน่านฟ้า ทางการไทยไม่ได้ขออนุญาตทำการบินผ่านน่านฟ้าของประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะไม่อนุญาตเพื่อลดความเสี่ยงและเลี่ยงความล่าช้าในกระบวนการขออนุญาตฯ เนื่องจากต้องการให้พี่น้องคนไทยได้เดินทางออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยและกลับประเทศไทยโดยเร็ว
ขอเตือนพี่น้องคนไทยเรื่องการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงและอาจพิจารณางดเว้นไปก่อน โดยขอให้ติดตามมาตรการของหน่วยงานท้องถิ่นและเฟซบุ๊คของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทุกหนแห่ง