กฎหมายกองทุน กยศ. ฉบับใหม่ หลัง “กิตติรัตน์” เผยคำนวณแล้ว “หนี้ลดลง 50%”
เมื่อวานนี้ (13 พ.ย. 66) กิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องการหารือเพื่อแก้หนี้ กยศ. โดยใช้การคำนวณตาม “พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566” ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 66 ซึ่งพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 66 โดยมีสาระสำคัญคือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 1% ต่อปี เบี้ยปรับลดเหลือ 0.5% ต่อปี จากเดิมที่กำหนดให้เก็บดอกเบี้ยไม่เกิน 7.5% ต่อปี และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
กยศ. หรือ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา คือหน่วยในใบกำกับของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา โดยการให้กู้ยืมแก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และนักเรียน นักศึกษาจะต้องชำระหนี้คืนพร้อมดอกเบี้ยตามอัตราที่กำหนดเมื่อจบการศึกษาแล้ว
กองทุนยังได้ขยายโอกาสให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ให้เข้าถึงการศึกษาที่หลากหลายในหลักสูตรระยะสั้น เพื่อ Reskill Upskill ครอบคลุมหลักสูตรอาชีพ เพื่อยกระดับทักษะ สมรรถนะ เสริมทักษะเฉพาะทางสำหรับวิชาชีพต่างๆ ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี หรืออยู่ระหว่างการบังคับคดีให้สามารถผ่อนผันชำระเงินคืน ปรับโครงสร้างหนี้ หรือแปลงหนี้ใหม่
นอกจากนี้ “ลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่” ก็ถือเป็นหลักเกณฑ์สำคัญที่มีการปรับเปลี่ยนตาม พ.ร.บ. กยศ. ฉบับใหม่นี้ โดยกำหนดให้นำเงินที่ผู้กู้ยืมเงินชำระ ไปหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด และเงินเพิ่มตามลำดับ กล่าวคือ ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. 66 เป็นต้นไป กองทุนจะนำยอดชำระเงินทุกรายการมาคำนวณการรับชำระใหม่อีกครั้งและปรับข้อมูลให้ถูกต้อง โดยจะนำเงินที่ได้รับมาหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด และเงินเพิ่มตามลำดับ แล้วคำนวณเบี้ยปรับใหม่ จากเดิม 7.5% เหลือ 0.5% ซึ่งผู้กู้ยืมจะไม่เสียสิทธิอันพึงได้ตามกฎหมายหรือได้รับผลกระทบใดๆ
จากสถิติข้อมูล กยศ. เผยว่า ปัจจุบันมีผู้กู้ยืมเงินมากกว่า 6.5 ล้านราย คิดเป็นให้กู้ยืมมากกว่า 734,127 ล้านบาท สามารถแบ่งออกได้ ดังต่อไปนี้ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 66)
– อยู่ในระหว่างการชำระหนี้ 3,548,923 ราย
– อยู่ในช่วงปลอดหนี้ 1,138,102 ราย
– ชำระหนี้เสร็จสิ้น 1,819,051 ราย
– เสียชีวิต/ทุพพลภาพ 71,518 ราย
ทั้งนี้ กยศ. ยังได้จัดอันดับข้อมูลสถิติการชำระหนี้ของสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและระดับอาชีวศึกษาทั่วประเทศที่มีผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุน พบว่า มหาวิทยาลัยพะเยามีอัตราการชำระหนี้ดีที่สุด รองลงมาคือมหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นอันดับที่ 2 – 5 ตามลำดับ
ขณะที่สถานศึกษษระดับอาชีวศึกษา พบว่าวิทยาลัยเทคนิคลำปางมีอัตราการชำระหนี้ดีที่สุด รองลงมาคือวิทยาลัยเทคนิคสว่างแดนดิน วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ วิทยาลัยเทคนิคเดชอุดม และวิทยาลัยเทคนิคเชียงราย
อยากได้ทุน กยศ ต้องทำยังไง?
การจะขอทุน กยศ. นั้นต้องมารู้จักประเภทผู้กู้ยืมกองทุนก่อน ซึ่งได้แบ่งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่
– ผู้กู้ยืมรายใหม่
– ผู้กู้ยืมรายเก่าเปลี่ยนระดับการศึกษาหรือเปลี่ยนสถานศึกษา
– ผู้กู้ยืมรายเก่าเลื่อนชั้นปี
ขั้นตอนในการกู้ยืม กยศ.
1. ผู้กู้ยืมลงทะเทียบรับรหัสผ่าน โดยขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนสำหรับผู้กู้ยืมรายใหม่เท่านั้น
2. ผู้กู้ยืมยื่นแบบคำขอกู้ยืม ผู้กู้รายใหม่และรายเก่า ต้องยื่นใบคำขอกู้ยืมภายในเวลาที่กองทุนกำหนด
3. สถานศึกษาตรวจสอบคุณสมบัติ ตรวจสอบคุณสมบัติ สัมภาษณ์และคัดเลือกนักเรียน นักศึกษาผู้มีสิทธิกู้ยืม
4. สถานศึกษาบันทึกกรอบวงเงินกู้ยืมทั้งปี สถานศึกษาบันทึกกรอบวงเงินกู้ยืมทั้งปีลงในระบบ e-Studentloan
5. สถานศึกษาประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิกู้ยืม สถานศึกษาประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิกู้ยืมลงในระบบ e-Studentloan
6. ผู้กู้ยืมทำสัญญากู้ยืมเงิน ผู้กู้ยืมรายใหม่หรือรายเก่าที่เปลี่ยนระดับหรือเปลี่ยนสถานศึกษา ต้องบันทึกและพิมพ์สัญญากู้ยืมเงินในระบบ e-Studentloan และส่งสัญญาพร้อมเอกสารประกอบที่ได้ลงนามแล้วให้สถานศึกษาตรวจสอบความถูกต้อง
7. สถานศึกษาตรวจสอบความถูกต้องของสัญญา เมื่อตรวจสอบแล้ว สถานศึกษาจะส่งข้อมูลลงในระบบ e-Studentloan พร้อมลงนามในสัญญา
8. ผู้กู้ยืมบันทึกค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ค่าใช้จ่ายจะต้องไม่เกินจำนวนที่สถานศึกษาเรียกเก็บจริงในระบบ e-Studentloan
9. สถานศึกษาพิมพ์แบบลงทะเบียนให้ผู้กู้ลงนาม สถานศึกษาลงทะเบียนในระบบพร้อมกับพิมพ์แบบลงทะเบียน/แบบยืนยันจำนวนเงินค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าครองชีพ และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงนาม
10. สถานศึกษาตรวจสอบและยืนยันข้อมูลของแบบลงทะเบียน สถานศึกษาตรวจสอบและยืนยันข้อมูลของแบบลงทะเบียน แบบยืนยันจำนวนเงินค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาและค่าครองชีพในระบบ e-Studentloan
11. สถานศึกษานำส่งสัญญาและแบบลงทะเบียนฯ ให้ธนาคาร สถานศึกษารวบรวมสัญญาและเอกสารประกอบสัญญากู้ยืมและแบบลงทะเบียนฯ จัดส่งผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม
การชำระหนี้และดอกเบี้ย กยศ. เป็นอย่างไร?
ผู้กู้ยืมจะต้องชำระเงินกู้ยืมคืนกองทุนหลังจากที่สำเร็จหรือเลิกการศึกษาแล้ว 2 ปี และต้องชำระให้เสร็จภายในเวลา 15 ปี โดยมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี
ขั้นตอนการขอทุนค่อนข้างยากในปัจจุบันเนื่องจากมีผู้กู้หลายรายที่ไม่ผ่อนชำระหนี้คืนหลังจากเวลาที่กำหนด ทำให้ผู้กู้รายใหม่นั้นมีสิทธิรับเงินกู้ได้ยากขึ้น