ศาลอังกฤษตัดสินนพพร ศุภพิพัฒน์ ชนะคดีโกงหุ้นโรงไฟฟ้า ได้ค่าชดใช้กว่า 3 หมื่นล้านบาท
กรณีพิพาทการซื้อขายหุ้น “วินด์ เอนเนอร์ยี่” หรือ WEH ที่ทำโรงไฟฟ้าพลังงานลม อดีตธุรกิจดาวรุ่งมูลค่าหลายหมื่นล้านเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเปิดฉากมาตั้งแต่ปี 2557 มีคดีฟ้องร้องกันอีรุงตุงนัง หลายต่อหลายคดี ยืดเยื้อยาวนานเป็นมหากาพย์ เมื่อศาลอังกฤษตัดสินเมื่อ 31 ก.ค. ให้ นายณพ ณรงค์เดช และพวกรวม 14 คน จ่ายค่าเสียหายรวมราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 3 หมื่นล้านบาท
นีล แคลเวอร์ (Neil Calver) ผู้พิพากษาแห่งศาลพาณิชย์ (Commercial Court) ของอังกฤษ มีคำตัดสินเมื่อ 31 ก.ค. 2566 ว่า นายณพและพวก (ยกเว้น จำเลยที่ 5, 10, และ 11) ร่วมกันกระทำละเมิดโดยมิชอบและต้องรับผิดร่วมกันตามมาตรา 432 ของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทย และสั่งให้ชดใช้ความเสียหายรวมกันทั้งเงินค้างชำระและดอกเบี้ยรวมกันเป็นมูลค่าราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ จากที่นายนพพรฟ้องเรียกไป 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ว่ากันว่า “นพพร” เชื่อมั่นมาตลอดว่าจะชนะคดีนี้แน่ ด้วยหลักฐานและ ข้อเท็จจริงที่ตนเองมี และยืนยันว่า จะไม่เจรจาความกับณพ แน่นอน ขอเพียงให้ณพ ชำระเงินมาตามสัญญา ซึ่งเป็นไปตามคำพิพากษาของศาลแค่นั้นพอ แต่หาก “ณพ” ไม่สามารถนำเงินมาชำระค่าหุ้นได้ก็จะต้องขายหุ้นทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชำระค่าหุ้นตามสัญญาน่าสนใจว่า ผลกระทบจากคดีนี้ จะเกิดอะไรขึ้นอีกต่อไป
คดีนี้ “นพพร” ฟ้อง “ณพ ณรงค์เดช” และ พวกรวม 17 ราย ซึ่งนอกจาก ณพ ใน13 รายที่ตกเป็นจำเลยร่วมนี้มีชื่อของ “เกษม ณรงค์เดช” บิดาของณพ “คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา” แม่ยาย ซึ่งเป็นภรรยาของพล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ผู้ล่วงลับ นอกจากนี้ยังมี “วีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ” กรรมการของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ของ SCB และเจ้าของสำนักงานกฎหมายชั้นนำของประเทศ Weerawong, Chinnavat & Partners (WCP) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของ ณพ และ “ประเดช กิตติอิสรานนท์” ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการของ WEH ตกเป็นจำเลยร่วมกับ ณพ ส่วนจำเลยอื่นๆ อีก 3 ราย คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ “อาทิตย์ นันทวิทยา” อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และ “นางคาดีจา บิลาล ซิดดีกี” นั้นรอดจากข้อกล่าวหาครั้งนี้
จากคดีที่ศาลอังกฤษตัดสิน คำให้การของ “คุณหญิงกอแก้ว” และ “ณพ” กรณีใช้ชื่อบิดา “เกษม ณรงค์เดช” มาถือหุ้น โดยที่คุณหญิงกอแก้ว อ้างว่า เลือก ดร.เกษม ให้เป็นตัวแทนของเธอก็เพราะ “ความเร่งด่วนของสถานการณ์ และ… เพราะ ดร.เกษม คือพ่อของ ณพ และเพราะกระบวนการของธนาคาร ไทยพาณิชย์ ในเรื่อง KYC” ศาลเห็นว่า คำอธิบายของคุณหญิงกอแก้ว ถูกหักล้างทันทีด้วยข้อเท็จจริงที่ณพ ยอมรับในศาล ระหว่างการซักค้านว่า ไม่ได้แม้แต่แจ้งบรรดาทนายของตัวเองว่า คุณหญิงกอแก้ว เป็นผู้ถือหุ้นตัวจริงในการโอนหุ้นให้กับ เกษมศาลยังย้ำว่า “ข้อตกลงตัวแทนเกษม ซึ่ง นายวีรวงค์ จิตต์มิตรภาพ เป็นผู้ร่าง ศาลเห็นว่า มันถูกร่างขึ้นมาจากเหตุผลที่ไม่ซื่อสัตย์” ในส่วนของ “วีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ” ที่ศาลกล่าวถึง ได้ยื่นหนังสือแจ้งขอลาออกจากตำแหน่งในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชื่อดังหลายแห่งเพราะกลัวจะกระทบภาพลักษณ์กับบริษัทที่ตัวเองนั่งเป็นบอร์ดอยู่
งานนี้ก็ต้องติดตามต่อไป เมื่องานเข้า “ณพ ณรงค์เดช” และแม่ยาย “คุณหญิงกอแก้ว” จะเดินเกมต่อสู้คดีกับ “นพพร”กันอย่างไร? และ จากคดีนี้จะมีผลต่อคดีอื่นๆอีกหรือไม่ เพราะคดีในไทยของณพ และแม่ยาย ก็มีอีกมิใช่น้อย…หนังชีวิตไม่จบอยู่แค่นี้ ดูกันยาวไป