สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร จะได้รับการสวมพระมหามงกุฎ เคียงข้างสมเด็จพระราชินีคามิลลา พระอัครมเหสี ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในวัน เสาร์ 6 พ.ค.2566 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ถือเป็นธรรมเนียมที่พระราชวงศ์อังกฤษทรงยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด นับตั้งแต่การขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ในปี 1902 โดยเป็นโอกาสที่จะได้ทรงพบปะทักทายเหล่าพสกนิกร ซึ่งมารวมตัวกันที่ถนนเดอะมอลล์ด้านหน้าพระราชวังบักกิงแฮม พระบรมวงศานุวงศ์ที่ร่วมในการเสด็จในครั้งนี้ ได้แก่เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์พร้อมด้วยพระโอรสและพระธิดา พระราชวงศ์ที่ยังทรงงานอย่างเป็นทางการรวมทั้งหลาน ๆ และพระญาติฝ่ายสมเด็จพระราชินีคามิลลา พีธีกรรมต่างๆ ที่จะมีขึ้นในวันสำคัญดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นไปตามขนบธรรมเนียมโบราณที่ถือปฏิบัติกันมา
กำหนดตารางเวลาสำหรับพิธีกรรมต่างๆ มีดังนี้
– เวลา 6.00 น. ตามเวลา BST (เวลามาตรฐานฤดูร้อนสหราชอาณาจักร) ตรงกับ 12.00 น.เวลาไทย เปิดให้ประชาชนเข้าจับจองพื้นที่เฝ้าชมขบวนเสด็จจากพระราชวังบัคกิงแฮมไปยังเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์
– เวลา 7.15-8.30 น. (13.15-14.30 น. เวลาไทย) แขกที่ได้รับเชิญให้เข้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ทยอยเดินทางมาถึงจุดตรวจตรารักษาความปลอดภัยต่างๆ โดยพิธีการต่างๆ ในพระราชพิธี ซึ่งเป็นพิธีการทางศาสนานั้น มี จัสติน เวลบี อาร์คบิชอบแห่งแคนเทอร์เบอรี ที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของคริสต์ศาสนาจักรนิกายแองกลิคัน (นิกายอังกฤษ) เป็นผู้นำในการประกอบพิธี
– เวลา 9.30-10.45 น. (15.30-16.45 น. เวลาไทย) แขกมีเกียรติจากต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการเลือกตั้ง พระประมุขและพระบรมวงศานุวงศ์ต่างประเทศ ตลอดจนสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษมาถึงเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์
– เวลา 10.20 น. (16.20 น.เวลาไทย) เริ่มเคลื่อนขบวนเสด็จออกจากพระราชวังบัคกิงแฮม ไปยังเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ โดยที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา จะเสด็จด้วยราชรถพัชราภิเษก (Diamond Jubilee State Coach) ซึ่งสร้างขึ้นใหม่และสะดวกสบายกว่า แทนราชรถทองคำ (Gold State Coach) ตามธรรมเนียมดั้งเดิม ขบวนเสด็จถึงเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ อันเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีก่อน 11.00 น. (17.00 น.) เล็กน้อย
– เวลา 11.00 น. (17.00 น.เวลาไทย) พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เสด็จเข้าสู่ด้านในของเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์พระราชพิธีกำหนดเริ่มขึ้นเวลา 11.00 น. โดยแบ่งออกเป็นหลายช่วงหลายขั้นตอน แต่ละช่วงจะคั่นด้วยดนตรีในพระราชพิธีนี้ พระเจ้าชาร์ลส์ และพระราชินีคามิลลา จะมีเด็กชายหญิงทำหน้าที่เป็นมหาดเล็กเฉลิมพระเกียรติ (pages of honor) พระองค์ละ 4 คน รวมเป็น 8 คน หนึ่งในนั้นคือ เจ้าชายจอร์จ พระราชนัดดาที่เป็นพระโอรสองค์โตของเจ้าชายวิลเลียม ปรินซ์ออฟเวลส์ แล้วยังมีพระนัดดาของพระราชินีคามิลลาอีก 5 คน มหาดเล็กเกียรติยศเหล่านี้บางคนทำหน้าที่เชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์เดินอยู่ด้านหน้าของพระเจ้าชาร์ลส์ โดยที่เครื่องราชกกุธภัณฑ์ส่วนใหญ่จะวางไว้บนแท่นบูชาสูง จนถึงเวลาที่ต้องใช้ในพระราชพิธี
เครื่องราชกกุธภัณฑ์ของสหราชอาณาจักร
เครื่องราชกกุธภัณฑ์ หรือสิ่งของอันเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเป็นกษัตริย์ อย่างเช่น พระมหามงกุฎ ลูกโลกประดับกางเขน และพระคทา แต่ละชิ้นถือเป็นเครื่องหมายแทนบทบาทหน้าที่ในแต่ละด้านของพระมหากษัตริย์ที่แตกต่างกันออกไป โดยที่จะมีการถวายลูกโลก (Sovereign’s Orb) พระคทากางเขน (Sovereign’s Sceptre with Cross) พระคทานกพิราบ (Sovereign’s Sceptre with Dove) และสิ่งของอื่นๆ ให้แก่พระมหากษัตริย์ ในขั้นตอนสำคัญๆ ในพระราชพิธีราชาภิเษก ส่วนพระราชินีคามิลลานั้น จะทรงได้รับพระคทากางเขน และพระคทานกพิราบสำหรับราชินีสหราชอาณาจักรเช่นกัน พระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นประกอบไปด้วยขั้นตอนต่างๆ โดยคาดว่าใช้เวลารวมกันทั้งหมดไม่เกิน 2 ชั่วโมง
– ขั้นตอนที่ 1 : รับรองฐานะความเป็นกษัตริย์
– ขั้นตอนที่ 2 : ทรงกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ
– ขั้นตอนที่ 3 : เจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์
– ขั้นตอนที่ 4 : สวมพระมหามงกุฎ
– ขั้นตอนที่ 5 : เสด็จขึ้นครองราชย์
หลังจากพิธีการข้างต้นเสร็จสิ้นลงแล้ว จะมีพระราชพิธีแต่งตั้งพระราชินีจากนั้นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา จะเสด็จเข้าร่วมขบวนเคลื่อนกลับไปยังพระราชวังบัคกิงแฮม
– เวลา 13.00 น. (19.00 น.เวลาไทย) ขบวนเสด็จจะเคลื่อนกลับไปตามเส้นทางเดิม แต่คราวนี้ราชรถที่ประทับจะใช้ราชรถทองคำอายุเก่าแก่ 260 ปี ซึ่งเป็นราชรถที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมาตั้งแต่เริ่มต้นรัชสมัยของพระเจ้าวิลเลียมที่ 4 เมื่อปี 1831เมื่อขบวนเสด็จกลับถึงพระราชวังบัคกิงแฮม กษัตริย์ และราชินีพระองค์ใหม่จะทรงได้รับการวันทยาหัตถ์ถวายความเคารพและมีการเปล่งเสียงถวายพระพร 3 ครั้ง จากกองทหาร
เวลา 14.30 น. (20.30 น.เวลาไทย) เสด็จออกสีหบัญชร ณ พระราชวังบัคกิงแฮม สำนักพระราชวังบัคกิงแฮมได้แถลงยืนยันแล้วว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา จะเสด็จออกสีหบัญชรตามราชประเพณีที่เคยมีมา แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดบ้างที่จะได้โดยเสด็จออกสีหบัญชรในครั้งนี้
(ที่มา : BBC, บีบีซีไทย, รอยเตอร์, เอเอฟพี)