น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 “ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด พร้อมและเต็มใจที่จะรับใช้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ ตั้งใจว่าการได้รับตำแหน่งนี้มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ปากท้องของประชาชนดีขึ้น”
“ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด พร้อมและเต็มใจที่จะรับใช้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ ตั้งใจว่าการได้รับตำแหน่งนี้มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ปากท้องของประชาชนดีขึ้น”
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 บรรยากาศที่อาคารวอยซ์สเปซ ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ทำการใหม่ของพรรคเพื่อไทยวันนี้ (18 ส.ค.67) เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล, รัฐมนตรี และสส.ของพรรคเพื่อไทย ทยอยกันเดินทางมาร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จากนั้นครอบครัวของน.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ก็ได้เดินทางมาสมทบ โดยได้ช่วยน้องสาวจัดแต่งชุด เครื่องแบบปกติขาวให้กับน้องสาว พร้อมยืนรอรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดา ที่เดินทางมาถึง ในเวลา 07:50 น. โดยน.ส.แพทองธาร ได้เดินไปรับถึงหน้าประตูรถ และทันทีนายทักษิณ ลงจากรถได้เข้าสวมกอด พร้อมกับหอมแก้มบุตรสาว เพื่อแสดงความยินดี ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และทักทายกับสื่อมวลชน
ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกับน.ส.แพธองธาร ที่อาคารว๊อยซ์ สเปซ เช่นกัน โดยในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางเพื่อมาแสดงความยินดี ในเวลา 08.00 น. นำทีม โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค, นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค และนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ก็จะเดินทางไปร่วมแสดงความยินดีในช่วงเวลาเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และนายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์
สำหรับพิธีรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 นั้น ได้จัดขึ้นที่บริเวณห้องโถงกลาง อาคารวอยซ์ สเปซ ซึ่งจะมีเฉพาะบุคคลสำคัญที่ได้รับอนุญาตเข้าร่วมในพิธีการดังกล่าวและอนุญาตให้เฉพาะ ช่างภาพจากสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในเวลาต่อมาว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เดินทางมาถึงที่อาคารวอยซ์ สเปซ (ที่ทำการพรรคเพื่อไทย) โดยมี รัฐมนตรี และสส.เข้าร่วมพิธี จากนั้น อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ว่า พระบรมราชโองการฯ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังรับสนองพระบรมราชโองการว่า “เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดิฉัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต”
ดิฉัน ครอบครัว และพรรคเพื่อไทย สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น ทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชน สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการและตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ “ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด พร้อมและเต็มใจที่จะรับใช้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ ตั้งใจว่าการได้รับตำแหน่งนี้มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ปากท้องของประชาชนดีขึ้น” ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ที่จะนำพาประเทศไทยเดินหน้า ฝ่าฟันทุกอุปสรรค แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาปากท้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน 3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ดิชั้นในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร จะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติ ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความเห็น เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านคะ ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วน ทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชน และพี่น้องประชาชน
ท่ามกลางกระแสข่าวที่ลือกันหลายสูตร เช่น ลือกันว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ส่งสัญญาณโควตารัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหมือนเดิม ไม่มีปรับเปลี่ยน ไม่มีล้างไพ่ นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำเพื่อไทย-ผู้จัดการรัฐบาลก็ออกมาส่งสัญญาณเรื่องโควตารัฐมนตรีว่า เมื่อเป็นรัฐบาลใหม่ ทุกอย่างต้องไม่เหมือนเดิม ที่ก็คืออาจมีการปรับเปลี่ยนโควตาบางกระทรวง แต่ท่าทีจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะ ภูมิใจไทย แข็งกร้าว ว่าทุกอย่างต้องเหมือนเดิมไม่มีแลกกระทรวง และขอให้ทุกพรรคร่วมรัฐบาลเร่งส่งโผ ครม.ภายในไม่เกินกลางสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ โผ ครม.จะสะเด็ดน้ำ นับจากนี้ ข่าวลือ ข่าวโยนหินถามทางเรื่องโผ ครม.อุ๊งอิ๊ง คงปลิวว่อนในตลาดการเมือง และบางพรรค เช่น เพื่อไทย คงฝุ่นตลบ แย่งเก้าอี้กันพอสมควร จนกว่า ทุกอย่างจะนิ่ง คือมีการโปรดเกล้าฯ รายชื่อลงมา
พรรคเพื่อไทย ที่ข่าวบางกระแสว่า รมต.ชุดสุดท้ายใน ครม.เศรษฐา ที่อาจจะไม่ได้กลับมาใน ครม.อุ๊งอิ๊ง ก็มีเช่น สุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม ที่ก่อนหน้านี้ได้ต่อวีซ่า ตอนปรับ ครม.เมื่อเมษายน 2567 ที่ผ่านมา แต่รอบนี้อาจจะหลุด, พิชัย ชุณหวชิร อดีตรองนายกฯ และ รมว.การคลัง ที่เป็นสายยิ่งลักษณ์ ชินวัตร-เศรษฐา เพราะพิชัยเคยไปเป็นพยานขึ้นเบิกความที่ศาลฎีกาฯ ช่วยยิ่งลักษณ์ในคดีจำนำข้าว จึงต้องมีการตอบแทนกัน แต่ตอนนี้วีซ่าหมดแล้ว โดยลือกันว่า จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จะพาสชั้นจาก รมช.คลัง ขึ้นเป็น รมว.คลัง รวมถึง จักรพงษ์ แสงมณี อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็มีชื่อว่าไม่ได้กลับมาเป็น รมต.อีกรอบ และคนที่คาดว่าจะมีชื่อได้ลุ้นในโผ ครม.อุ๊งอิ๊ง 1 ก็มีเช่น ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.หนึ่งเดียวของพรรคเพื่อไทย ที่ชนะก้าวไกลมาได้ 4 คะแนน ก็อาจได้ลุ้นเป็น รมต.พร้อมกับที่จะถูกดันขึ้นมาเป็นขุนพลหญิงดูแล กทม.ของเพื่อไทยในอนาคต “เดียร์-ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ” ลูกสาวเสธ.แดง พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล ที่เสียชีวิตตอนเหตุการณ์ชุมนุมเสื้อแดง ปี 2553 และเป็นที่รู้กันดีว่า เป็นนักการเมืองใน กลุ่มเพื่อนสายปาร์ตี้ โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร พี่ชายนายกฯ อุ๊งอิ๊ง แต่ก็สนิทกับอุ๊งอิ๊งด้วยเช่นกัน และยังมีชื่อ “สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย” ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมา ทำงานสอดประสานกับอุ๊งอิ๊ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นอย่างดี ก็มีข่าวว่าอาจจะได้ลุ้นคัมแบ็กกลับมาเป็น รมต.อีกครั้ง หลังเคยเป็น รมช.สาธารณสุข เมื่อหลายปีมาแล้ว และล่าสุดข่าวว่า สรวงศ์ไปดีลกับ “กลุ่มเทียนทอง” สายเจ๊ขวัญเรือน เทียนทอง-ตรีนุช เทียนทอง 2 สส.สระแก้ว พลังประชารัฐ ให้กลับมาเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าสำเร็จเรียบร้อย ทำให้เลือกตั้งรอบหน้า บ้านใหญ่เทียนทองมีโอกาสชนะเลือกตั้งยกจังหวัดสูงที่สระแก้ว ไม่ต้องแข่งกันเองให้เหนื่อย เลยมีข่าวว่าอาจจะได้เป็นรัฐมนตรีใน ครม.อุ๊งอิ๊ง
และอีกหนึ่งชื่อที่ข่าวยังไม่ชัด ว่าจะได้กลับมาใน ครม. อุ๊งอิ๊ง 1 หรือไม่
หลังลือกันสะพัดว่า ทักษิณสุดทนกับ “ลุงป้อม-พลเอกประวิตร” กับท่าทีหลายอย่าง ที่ไม่สนใจเพื่อไทย ล่าสุดก็ไม่ไปประชุมสภาฯ ร่วมโหวตให้ลูกสาวตัวเอง อุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ เพราะแม้จะติดงานเลี้ยงฉลองนักกีฬาโอลิมปิกฯ แต่ของแบบนี้ทักษิณคงมองว่า ถ้าจะซื้อใจกันจริงๆ ก็ตีรถแวบไปสภาฯ โหวตให้ได้ ไม่ใช่ต้องอยู่ร่วมงานเลี้ยงจนไม่ยอมไปโหวตให้ หลังก่อนหน้านี้ ตอนเศรษฐาก็ไม่ไปโหวตให้ และที่ผ่านมาก็โนสนโนแคร์อะไรทั้งสิ้น ขนาดงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลหลายครั้งก็ไม่ไป-ไม่เบรกอดีต สว.กลุ่มบ้านป่าฯ ที่เข้าชื่อถอดถอนเศรษฐา ทำให้มีข่าวว่าทักษิณขอแตกหัก ไม่ให้มีชื่อ พล.ต.อ.พัชวาทใน ครม.ลูกสาวตัวเอง แต่ล่าสุดทั้งอุ๊งอิ๊งและภูมิธรรมก็ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวพัลวัน ว่าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 9.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 ถึงการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ว่า ในช่วงสัปดาห์นี้จะประสานเพื่อพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีจะพยายามจะทำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ และจะพยายามพูดคุยให้ครบทุกฝ่าย ขณะที่สัดส่วนรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจะพูดคุยรายละเอียดพรุ่งนี้ วันนี้ยังไม่มีการพูดคุย ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้มีประชุมเรื่องภายในพรรค ก่อนที่จะประชุมการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี เมื่อถามถึงสัดส่วนของคณะรัฐมนตรียังคงคละกันระหว่างคนเก่าคนใหม่ใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยรายละเอียด ซึ่งวันพรุ่งนี้จะเริ่มพูดคุย และจะมีความคืบหน้าตามลำดับ โดยในวันพรุ่งนี้จะยังไม่แล้วเสร็จ แต่ภายใน 1 สัปดาห์นี้จะพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลให้แล้วเสร็จ พร้อมย้ำว่า การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดนี้จำเป็นจะต้องดูเรื่องของคุณสมบัติเป็นพิเศษ เพื่อไม่อยากให้เกิดสิ่งที่ผิดพลาด และไม่อยากให้ใช้เวลานาน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรีบแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะส่งคุณสมบัติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพราะ รอบนี้หลายคนก็แนะนำว่าการตรวจคุณสมบัติจะนานขึ้น และคิดว่าไม่น่าใช้เวลาถึง 1 เดือนในการฟอร์ม ครม.
เมื่อถามว่าสัดส่วนของพรรครวมรัฐบาล ยังเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รายละเอียดทั้งหมดขอเป็นภายในสัปดาห์นี้ ยังไม่อยากตอบวันนี้เพราะเดี๋ยวจะเร็วเกินไป ขอคุยกับคนอื่นๆก่อนด้วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารประเทศ ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศ หลังจากเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2567 ได้รับคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ในสภาฯ ลงมติ “เห็นชอบ” 319 เสียง / “ไม่เห็นชอบ” 145 เสียง / “งดออกเสียง” 27 เสียง
ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ที่จะเปลี่ยนหรือสรรหาให้สิทธิ์กับพรรคนั้นนั้นในการที่จะเปลี่ยนหรือสรรหาบุคคลเข้ามา นายกฯกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องส่งให้กฤษฎีกาตรวจสอบด้วยตามระเบียบ แต่ขอไปดูก่อนว่ามีการวางขั้นตอนไว้อย่างไรบ้าง โดยพรรคร่วมรัฐบาลก็ควรต้องพิจารณามาในระดับหนึ่ง และสุดท้ายก็เป็นหน้าที่ของกฤษฎีกาที่ตรวจสอบว่าสุดท้ายแล้วทุกอย่างจะเป็นอย่างไร ซึ่งสุดท้ายก็ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน
ล่าสุด พบว่าในบัญชีโซเชียลมีเดียต่างๆ ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ทั้งเฟซบุ๊ก และอินสตราแกรม ได้ถูกเปลี่ยนโปรไฟล์ในส่วนของการแนะนำตัวเองใหม่ โดยเขียนระบุชัดเจนตามตำแหน่งว่าเป็น “นายกรัฐมนตรี”พร้อมเขียนโพสต์หนึ่งว่า “ดิฉันจะทำงานร่วมกับทีมทำงานทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วง ขอให้ทุกท่านติดตามการแถลงนโยบายที่จับต้องได้ ทำได้จริง ภายในเดือนกันยายนนี้แน่นอน ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ในฐานะแม่ ลูก และเพื่อน จะใช้เรี่ยวแรงและพลังงานทั้งหมดที่มี เพื่อส่งให้ทุกตารางนิ้วบนแผ่นดินไทย กลายเป็นพื้นที่แห่งโอกาส ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์ และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเองค่ะ”