ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงป เยือนยุโรป การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหภาพยุโรปและแรงผลักดันใหม่ให้กับการพัฒนาอย่างสันติของทั่วโลก
การเยื่อนยุโรปของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนการเลือกฝรั่งเศสเป็นจุดหมายแรกในรอบ 5 ปี แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างจีนกับฝรั่งเศส ต่อด้วยการเดินทางเยื่อนประเทศเซอร์เบีย ในการเยือนครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะพบเจรจากับประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์วูชิช และประเทศสุดท้ายฮังการีปีนี้ครบรอบ 75 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับฮังการี การเดินทางไปยุโรปของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับ 3 ประเทศดังกล่าวให้ก้าวสู่ระดับใหม่เท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหภาพยุโรปโดยรวม และจะอัดฉีดแรงผลักดันใหม่ให้กับการพัฒนาอย่างสันติของทั่วโลก
เป็นที่ทราบกันดีว่าฝรั่งเศสเป็นประเทศใหญ่ของตะวันตกประเทศแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน การเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ของประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิง เป็นการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของผู้นำสูงสุดจีนในรอบ 5 ปี ซึ่งตรงกับโอกาสครบรอบ 60 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ฝรั่งเศส
ประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิง มีกำหนดหารือกับประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป เออร์ชูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ในกรุงปารีส วันจันทร์นี้ และจะมีพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการจากมาคร็องในวันเดียวกัน จากนั้นในวันอังคาร ผู้นำจีนกับฝรั่งเศสมีกำหนดเดินทางเยี่ยมชมเทือกเขาพิรินี จากนั้นจะหารือกันในประเด็นที่เกี่ยวกับรัสเซียรุกรานยูเครน และความกังวลของชาติตะวันตกเรื่องที่รัสเซียได้รับการสนับสนุนจากจีนในการผลิตอาวุธ
จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศที่สืบทอดอดีตและก้าวสู่อนาคต จีนใช้โอกาสนี้ เชิดชูประเพณีอันดีงาม มุ่งสู่อนาคต ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกัน กระชับความร่วมมือและความสามัคคี ให้ก้าวสู่ระดับใหม่กับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ยุโรปที่แน่นแฟ้นและมั่นคง สร้างคุณูปการใหม่ให้กับการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนา และความก้าวหน้าของโลก
เช่นกันประเทศเซอร์เบีย การเยือนครั้งนี้เป็นการเยือนครั้งแรกของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในรอบ 8 ปี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะพบเจรจากับประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูชิช แลกเปลี่ยนความคิดเห็นประเด็นระหว่างประเทศและภูมิภาคที่เป็นกังวลร่วมกัน และหารือเพื่อยกระดับความสัมพันธ์จีน-เซอร์เบีย และกำหนดแนวทางสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคต
ประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิง จะส่งเสริมการส่งออกไปจีนภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี และคาดว่าการสนับสนุนในส่วนที่มาจากจีนสำหรับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในเซอร์เบียจะมีมูลค่าสูงถึง 27,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น เซอร์เบียและจีนยังประกาศสนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดนของแต่ละฝ่าย โดยนายวูชิช หมายถึงการอ้างสิทธิของเซอร์เบียเหนือโคโซโว อดีตจังหวัดที่แยกเป็นอิสระฝ่ายเดียวในปี 2551 และนโยบายของปักกิ่งต่อไต้หวัน
ส่วนการเยือนประเทศฮังการีเป็นประเทศสำคัญในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก โดยจีนกับฮังการีเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ส่งเสริมการร่วมสร้างหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางและความร่วมมือระหว่างจีนกับยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก ประธานาธิบดีทามาซ ซูลยอค และนายกรัฐมนตรีวิกตอร์ ออร์บานแห่งฮังการีร่วมกันเชิญประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเยือนฮังการี สะท้อนให้เห็นว่า ฮังการีให้ความสำคัญอย่างเต็มที่และมีความคาดหวังอย่างสูงต่อการเยือนครั้งนี้
ปธน.สี จิ้นผิงได้ประกาศการลงทุนล็อตใหม่ และยกย่อง “วิกเตอร์ ออร์บาน” นายกรัฐมนตรีฮังการีว่าเป็นบุคคลต้นแบบของความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อียู ในแบบที่ควรจะเป็น และสียังให้คำมั่นว่าจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยกระจายสินค้าจากโรงงานจีนทั่วถึงทั้งกลุ่มการค้าด้วย ก่อนหน้านี้ “บีวายดี” ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน ได้เลือกฮังการีเป็นที่ตั้งโรงงานแห่งแรกในยุโรป ซึ่งฮังการีเองก็เป็นศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรี่ ขณะเดียวกันรัฐบาลฮังการีที่ขาดแคลนเงินสด กำลังต้องการแหล่งเงินสำหรับโครงการลงทุน โดยรัฐบาลนายกรัฐมนตรีออร์บานสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากจีนได้ราว 10,000 ล้านยูโรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมรถอีวี โดยบีวายดี บริษัทผู้ผลิตอีวียักษ์ใหญ่สัญชาติจีน เลือกฮังการีเป็นสถานที่ก่อสร้างโรงงานผลิตรถในยุโรปแห่งแรกของบริษัท นอกจากนั้น ฮังการียังเป็นศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรี่สำหรับอีวี โดยขณะนี้บริษัท คอนเทมโพรารี แอมเพเร็กซ์ เทคโนโลยี จำกัด (Contemporary Amperex Technology Co. Ltd) ของจีน กำลังก่อสร้างโรงงานมูลค่า 7,300 ล้านยูโรในเมืองเดเบรเซนทางภาคตะวันออก
อย่างไรก็ตามดูการที่สี จิ้นผิงไปเยือนยุโรปฝั่งตะวันออก พิสูจน์ให้เห็นว่า เกิดประสิทธิผลมากกว่า เพราะปธน.สี จิ้นผิงได้เซอร์เบียเป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนวิสัยทัศน์ในด้านระเบียบโลก และจีนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างฮังการีและสหภาพยุโรป (อียู) แม้สีหลีกเลี่ยงพูดถึง “สงครามเย็นรอบใหม่” แต่ดูเหมือนว่าการทูตของเขากลับฟื้นสงครามเย็นระหว่างยุโรปตะวันออกและยุโรปตะวันตกขึ้นมา ซึ่งดูได้จากผลงานในทริปเยือนยุโรปของปธน.สี จิ้นผิงครั้งนี้
“อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เข้าร่วมประชุมไตรภาคีร่วมกับสีและมาครง ณ กรุงปารีส ได้ย้ำว่า ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นต่อยูเครนและยุโรปจาก สงครามรัสเซีย-ยูเครน นั้น ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของอียูและจีนด้วย
ในบทความของผู้นำจีน ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์แมคยาร์ เนมเซต (Magyar Nemzet) สื่อของพรรครัฐบาลฮังการี สี จิ้นผิง ระบุว่า ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับภูมิภาคนี้เป็นการก้าวไปสู่เสถียรภาพและการพัฒนาในระดับโลก นอกจากนั้น ฝั่งตะวันออกของยุโรปยังมีส่วนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับยุโรปอีกด้วย การแสดงความเห็นของผู้นำจีนมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างรัฐบาลจีนกับอียูทวีความตึงเครียด โดยบรรดาผู้นำชาติยุโรปตะวันตกกล่าวหา รัฐบาลจีนส่งสินค้าราคาถูกเข้ามาทุ่มตลาดยุโรป ซึ่งคุกคามการจ้างงาน อีกทั้งยังให้การสนับสนุนรัสเซียในสงครามยูเครน
บลูมเบิร์กระบุด้วยว่า หากสี จิ้นผิง หวังจะสร้างกำแพงกั้น(ความสัมพันธ์)ระหว่างอียูและสหรัฐ คงไม่สำเร็จมากนัก เพราะหลังฟอน แดร์ ไลเอิน ประชุมกับสี เธอบอกว่า อียูพร้อมใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีต่อต้านสิ่งที่เธอเรียกว่า แนวทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน ที่เป็นข้อกังวลในสหรัฐเช่นกัน แต่ปธน.สี จิ้นผิง ปฏิเสธคำกล่าวอ้างทั้งหมดอย่างแข็งขัน
Chinese President Xi Jinping visited Europe, improving relations between China and the European Union, and giving a new impetus to the peaceful development of the world.
President Xi Jinping’s visit to Europe of the People’s Republic of China to choose France as the first destination in 5 years shows close ties between China and France, followed by his visit to Serbia. In this visit, President Xi Jinping will meet with President Aleksandar Wuchich and the last country of Hungary this year for the 75th anniversary. The year of establishment of diplomatic relations between China and Hungary. President Xi Jinping’s trip to Europe will not only promote relations between China and the three countries to a new level, but also be vital to the overall development of China and the European Union, and will inject new momentum into global peaceful development.
France is known to be the first major western country to establish diplomatic relations with the People’s Republic of China. Chinese President Xi Jinping’s visit to France is the official visit of the Chinese supreme leader in five years, which coincides with the 60th anniversary of the establishment of diplomatic relations between China and France.
Chinese President Xi Jinping is scheduled to have a meeting with EU Commission President Ursula von der Leien in Paris on Monday and an official welcoming ceremony will be held from Macron on the same day. Then on Tuesday, Chinese and French leaders are scheduled to visit the Pirini Mountains and discuss Russian invasion of Ukraine. And Western concerns that Russia has received support from China for its weapons production.
The relationship between the two countries that have passed on and moved on to the future. China takes this opportunity to promote good traditions, promote mutual political trust, strengthen cooperation and unity to a new level with the development of strong and stable Sino-European relations, creating new values for promoting peace, stability and development. And the progress of the world.
Also, Serbia. This is Xi Jinping’s first visit in eight years. Xi Jinping will meet with President Aleksandar Vušić, exchange views on issues between countries and regions of mutual concern, and discuss to enhance Sino-Serbian relations and establish guidelines for future development of bilateral relations.
Chinese President Xi Jinping will promote exports to China under the free trade agreement, and China’s support for infrastructure investment in Serbia is expected to be as high as 27.Billions of dollars. Serbia and China also announced their support for territorial integrity. Wuchich refers to Serbia’s claim over Kosovo, a former unilateral province, in 2008 and Beijing’s policy toward Taiwan.
The visit to Hungary is an important country in Central and Eastern Europe, with China and Hungary as strategic partners, promoting China-Central and Eastern Europe cooperation, President Tamaz Zulyok and Hungarian Prime Minister Viktor Orban inviting President Xi Jinping to Hungary. Hungary is fully focused and has high expectations for this visit.
President Xi Jinping has announced a new lot of investment and praised Hungarian Prime Minister Viktor Orban as the model of China-EU relations. Xi also pledged to build infrastructure that will help distribute products from Chinese factories throughout the trade group. Previously, China’s giant electric carmaker “BWD” Hungary was chosen as the first plant in Europe, which is also the centre of battery production. At the same time, the cash-strapped Hungarian government is in need of funding for investment projects. The Orban government has attracted about 10 Chinese investments.€1,000 million over the past few years has been invested mainly in the EV industry. China’s giant EVD chose Hungary as its first European plant construction site. Hungary is also the centre of battery production for EV. Contemporary Amperex Technology Co. Ltd) China is building a 7,300 million euro plant in the eastern city of Debrecen.
How?Well, looking at Xi Jinping’s visit to Eastern Europe proves to be more effective because of the President.Xi Jinping has Serbia as one of the countries that supports the vision of world order and China has become involved in increasingly strained relations between Hungary and the European Union (EU). Although Xi avoided mentioning the “new Cold War,” his diplomacy seems to have revived the Cold War between Eastern and Western Europe, as evidenced by the results of his presidential visit to Europe.Xi Jinping this time.
Ursula von der Leien, chairman of the European Commission, who attended the trilateral meeting with Xi and Macron in Paris, stressed that the threat posed to Ukraine and Europe from the Russian-Ukrainian War also affected the relationship of the EU and China.
In an article by the Chinese leader, published in the Hungarian government’s media Magyar Nemtzet, Xi Jinping said that stronger relations with the region are a step toward global stability and development. The eastern side of Europe also contributes to promoting relations between China and Europe. The Chinese leadership’s comments came at a time when trade disputes between the Chinese government and the EU intensified. Western European leaders accused the Chinese government of dumping cheap goods into the European market, threatening employment, and supporting Russia in the Ukraine war.
Bloomberg also noted that if Xi Jinping hopes to build a barrier between the EU and the United States, it will not be very successful because after Fondair Lein’s meeting with Xi, he said he is ready to use all the tools against what she calls China’s unfair trade practices that are also a concern in the United States, but President Xi Jinping strongly denies all claims.