“ประชาธิปัตย์”ยุค“เฉลิมชัย”เร่งวางยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าอัพเกรดศักยภาพประเทศใหม่
“อลงกรณ์”หวัง“ครม.ใหม่”เร่งแก้ปัญหา”โลกร้อน ท้องหิว”อย่าทำประเทศเสียโอกาสซ้ำรอย”เศรษฐา1“
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ใกล่าววันนี้(28 เม.ย.)ว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มองว่าสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญไม่น้อยกว่าด้านเศรษฐกิจจึงมอบนโยบายในระหว่างการประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์เมื่อวานนี้ให้“คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่กำหนดทิศทาง และยุทธศาสตร์ของพรรค ให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม …” เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างและระบบเหมือนเครื่องยนต์ตัวเก่าทำให้ศักยภาพของระบบเศรษฐกิจอ่อนแอและถดถอยลงต่อเนื่องมากว่า20ปี ดังจะเห็นได้ว่าในช่วงปี 2543ถึง 2553 เศรษฐกิจเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3.5 และลดลงเหลือเพียงร้อยละ 2.7 ระหว่างปี 2554ถึง 2564 และปีนี้ก็คาดว่าจะเติบโตไม่ถึง3%
รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์กล่าวย้ำว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์กำลังเร่งจัดทำยุทธศาสตร์และนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศรวมทั้งตอบโจทย์ที่เป็นปัญหาและความท้าทายใหม่ๆซึ่งรอช้าไม่ได้ต้องเร่งสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ๆที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเช่นระบบเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เศรษฐกิจสูงวัย(Silver Economy) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) และเศรษฐกิจคาร์บอน(Carbon Economy) รวมทั้งยุทธศาสตร์AIปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น
“ ระบบเศรษฐกิจใหม่คือเครื่องยนต์แห่งการเติบโต(New Growth Engines)ที่จะยกระดับเพดานรายได้ใหม่ของประเทศและคนไทยให้สูงขึ้นเนื่องจากระบบเศรษฐกิจดั้งเดิมไม่มีพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกต่อไปในภาวะที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุคโลกเดือดและโลกรวน สภาวะอากาศสุดขั้ว (Extreme Weather) อุณหภูมิที่สูงขึ้น ปรากฎการณ์เอลนิโญและลานีญามาเร็วกว่าที่คิดและร้ายแรงมากขึ้นทำให้เกิดภัยแล้งภัยร้อนน้ำท่วมขั้นวิกฤติกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร ต้นทุนอาหารของประชาชน ห่วงโซ่การผลิตอาหารและความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ตลอดจนปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ทวีความรุนแรงมากขึ้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและการท่องเที่ยว เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเหมือน 2 ด้านของเหรียญ เราอยู่ในภาวะโลกร้อนและท้องหิว การรับมือวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจที่เผชิญอยู่ขณะนี้และในอนาคตเป็นเรื่องเร่งด่วนและต้องทำทันทีอย่างจริงจังต่อเนื่อง หวังว่า “ครม.ใหม่”จะเร่งแก้ปัญหา”โลกร้อน ท้องหิว”อย่างจริงจังอย่าทำประเทศเสียโอกาสซ้ำรอย ”เศรษฐา 1“เพราะที่ผ่านมารัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในระดับเชิงโครงสร้างและระบบน้อยมาก“ นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด..
“Democrats” era “Chalermchai” has accelerated economic and environmental strategies and aims to upgrade the country’s potential.
Alongkorn Wang, the Cabinet.New “Hurry up and solve the problem of global warming, hungry stomachs.” Don’t waste your country’s chance to repeat “Economy 1.”
Mr. Alongkorn Ponlaboot, Vice President of the Democratic Party’s Strategy Committee, said today (April 28).Y.) That under the vision of Dr.Democratic Party leader Chalermchai Sri-on views the environment as no less important than the economy, thus giving the policy during the Democratic Party’s general meeting yesterday. “The Democratic Party’s Strategy Committee sets clear goals such as economy, society and the environment.” Due to structural and mechanical problems, economic performance has weakened for more than 20 years. It can be seen that during 2000-2010, the economy grew 3.5 percent on average and fell to 2.7 percent between 2011-2011, and this year is expected to grow less than 3 percent.
Deputy Chairperson of the Democratic Party’s Strategy Committee emphasized that The Democratic Party’s Strategy Committee is working on strategies and policies for economic and environmental reform to enhance the country’s competitiveness, as well as address new challenges and challenges. Silver Economy, Creative Economy, Carbon Economy, AI Strategy, Artificial Intelligence, etc.
” The new economic system is a new growth engine that will raise the ceiling of income of Thailand and Thai people as the traditional economy no longer has the power to propel the country’s economy amid global warming and global turbulence. The El Niño and Laniya phenomenon came earlier than expected and became more serious, causing drought, severe heat and flooding, farmers’ incomes, food costs, food security chains, and PM2 smoke.5 Increasingly, the impact on people’s health and tourism, the economy and the environment is like two sides of the coin. We are in a global warming and hungry environment. Addressing the current and future environmental and economic crises is urgent and must be done immediately continuously.
The new “will speed up the problem of global warming, hungry stomachs” seriously. Don’t waste the country’s opportunity to repeat “economy 1″ because the government has solved the economic and environmental problems at a very structural and systematic level,” Mr. Alongkorn finally said..