ความทรงจำจากอดีตสู่ปัจจุบันปี 2566 ศาสตราจารย์ (พิเศษ) วิชา มหาคุณ สำเร็จการศึกษาปริญญานิติศาสตรบัณฑิต และนิติศาสตรมหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปีพุทธศักราช 2510 และ 2516 ตามลำดับ สอบไล่ได้เป็นเนติบัณฑิตไทยจากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
เมื่อปีพุทธศักราช 2511 สำเร็จการศึกษารัฐศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปีพุทธศักราช 2534 ศาสตราจารย์ (พิเศษ) วิชา มหาคุณ ได้รับการบรรจุเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อปีพุทธศักราช 2513 ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานอัยการ เมื่อปีพุทธศักราช 2515 สอบได้เป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา ปีพุทธศักราช 2516 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้พิพากษาศาลยุติธรรม เมื่อปีพุทธศักราช 2517 ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลยุติธรรม เมื่อปีพุทธศักราช 2517 โดยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลคดีเด็กและเยาวชน จังหวัดอุบลราชธานี และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแพ่ง เมื่อปี พุทธศักราช 2533 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการศาลฎีกา เมื่อปีพุทธศักราช 2534 ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์
เมื่อปีพุทธศักราช 2535 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 1 เมื่อปีพุทธศักราช 2536 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พุทธศักราช 2537 ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา ตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ภาค 2 ตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ภาค 1 และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวศาลฎีกา เมื่อปีพุทธศักราช 2549
นอกจากนี้ขอบันทึกไว้ในความจำ รับรางวัลนักสิทธิมนุษยชนดีเด่น ได้รับรางวัลคนไทยตัวอย่าง ประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริต ซึ่งได้จัดการแข่งขันวิ่งการกุศลต่อต้านทุจริต วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ประจำปี 2565 ชิงถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ทั้งนี้ได้รับหนังสือพระราชทานพระราชวโรกาสให้นำคณะฯ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2566 และทูลเกล้าฯถวายเงินส่วนหนึ่งจากการจัดงานดังกล่าว โดยเสด็จพระราชกุศล ณ วันที่ 1 เมษายน 2566 ด้วย
และในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม มอบโล่เกียรติยศ ให้แก่ผู้เขียนในฐานะศิษย์เก่าดีเด่น ผู้สร้างชื่อเสียงทำคุณประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติ ในวาระครบรอบ 72 ปี ของการสถาปนาโรงเรียน จากนั้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้เขียนได้รับโล่รางวัล “โพธิ์ทองคนต้นแบบ “ จากพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในวาระจัดตั้งสมาคมครบ 90 ปี เกียรติที่ได้รับล่าสุด คือ ได้รับหนังสือเชิญ จาก “องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก” (พ.ส.ล.) ให้ดำรงตำแหน่ง เป็น “กรรมการสภามหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก” มีหน้าที่จัดการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนาชั้นสูง ประสานกับมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาและสถาบันที่มีการสอนวิชาพุทธศาสนาสาขาต่างๆ ในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา การฝึกอบรม การปฏิบัติจิตตภาวนา ฯลฯ
นับเป็นวันเกิดปีที่ 77 ที่ดีงาม และได้รับเกียรติยศอันควรค่าแก่ความภาคภูมิใจอย่างยิ่งท่านและภรรยาท่าน ท่านทูตนวลพรรณ มหาคุณ สมรสเมือวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๑๙ (ตามฤกษ์ของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ทิม) เจ้าอาวาส วัดราชประดิษฐ์ ในขณะนั้น) ณ ห้องประชุมใหญ่ กระทรวงการต่างประเทศ วังสราญรมย์ โดยมี ท่านแผน วรรณเมธี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และศาสตราจารย์ประภาศน์ อวยชัย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมเป็นเจ้าภาพ
นับถึงวันนี้ วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๖ เป็นเวลา ๔๗ ปี วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วดั่งความฝัน แต่ปัจจุบันที่เป็นความจริงคือชีวิตอัศจรรย์ดุจดั่งนวนิยาย ที่ให้บทเรียนมากมาย ทั้งแก่ตนเอง และคนรุ่นหลัง ขอบคุณท่านทูตที่ช่วยดูแล ประคับประคองชีวิตของทั้งสองฝ่ายด้วยความดีงามล้ำเลิศ ทำให้ผู้เขียนผ่านพ้นอุปสรรคและผองภัยมาด้วยดี จวบจนบัดนี้ และตลอดไปกับ “วันเกิด 77 ปี ศาสตราจารย์ วิชา มหาคุณ “ประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริต” ความทรงจำจากอดีตสู่ปัจจุบันปี 2566”