การสู้รบระหว่าง “อิสราเอล – ฮามาส”นานาชาติต่างออกแถลงการณ์ประณามมาตรการปิดล้อมของอิสราเอล พร้อมเรียกร้องให้เปิดทางเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่พื้นที่ฉนวนกาซา
การโจมตีกลับของอิสราเอลเกิดขึ้นทันทีหลังจากกลุ่มฮามาสบุกโจมตี โดยอิสราเอลกระหน่ำยิงขีปนาวุธเข้าใส่อาคารบ้านเรือนและพื้นที่ต่างๆ ในฉนวนกาซา เป็นเหตุให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พุ่งสูงหลายพันคน ขณะมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก และมีประชาชนต้องหนีออกจากบ้านของตัวเองอีกกว่าล้านคน ไม่เพียงแค่นั้นในฉนวนกาซาก็กำลังทวีความรุนแรงและเลวร้ายมากขึ้น เมื่ออิสราเอลยังคงมุ่งล่าหัวกลุ่มฮามาสที่ซ่อนตัวอยู่ในฉนวนกาซา โดยไม่สนใจว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนบริสุทธิ์ โดยใช้ “มาตรการปิดล้อม” ด้วยการตัดน้ำ ไฟ อาหาร และน้ำมัน ส่งผลให้พื้นที่ในฉนวนกาซาไร้ไฟฟ้าใช้ เนื่องจากโรงไฟฟ้าไม่มีเชื้อเพลิงสำหรับการเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ การปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างเด็ดขาดของอิสราเอล ยังทำให้ไม่สามารถลำเลียงอาหาร น้ำสะอาด และเครื่องอุปโภคบริโภคจำเป็นอื่นๆ เข้าไปในพื้นที่ได้เลย
นานาชาติต่างออกแถลงการณ์ประณามมาตรการปิดล้อมของอิสราเอล พร้อมเรียกร้องให้เปิดทางเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่พื้นที่ฉนวนกาซา การโจมตีอย่างหนักของอิสราเอล ทำให้ประชาชนในฉนวนกาซาได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งในอิสราเอลและปาเลสไตน์ เพิ่มเป็นมากกว่า 4,000 ราย และบาดเจ็บหลายหมื่นราย แม้ UN และองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งจะออกมาประณามการโจมตีพลเรือนอิสราเอลของกลุ่มฮามาส แต่อิสราเอลก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกประณามเรื่องการตอบโต้กลับที่รุนแรงเช่นกัน โดยเฉพาะคำสั่งอพยพคนในฉนวนกาซามากกว่า 1 ล้านคนในเวลาอันจำกัด
นายฮอสเซน อาร์มี-อับดอลาเฮียน (Hossein Amirabdollahian) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่าขณะนี้ไม่มีฝ่ายใดรับประกันได้ว่าการสู้รบจะไม่ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วตะวันออกกลาง โดยมีความเป็นไปได้ที่ประเทศอื่นๆ รวมถึงอิหร่าน จะโจมตีอิสราเอล หากการโจมตีประชาชนในฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงประณามกลุ่มฮามาส เผยยืนหยัดอย่างมั่นคงอิสราเอล ทั้งยังส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์และส่งกองกำลังเพื่อควบคุมความปลอดภัยใกล้อิสราเอลขณะที่ “เออร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป โพสต์ประณามกลุ่มฮามาสในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ และว่าอิสราเอลมีสิทธิปกป้องตนเองจากการโจมตีที่เลวร้าย
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลส์ ของเยอรมนี และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย ขอยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล