สัมพันธ์สหรัฐ-จีนส่งสัญญาณคืบหน้าหลังนายบลิงเกนได้เข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน
นายบลิงเกนได้เข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่กรุงปักกิ่งในวันจันทร์ (19 มิ.ย.) โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพระหว่างจีนและสหรัฐ โดยตระหนักว่าความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐซึ่งต่างก็เป็นสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกนั้น จะส่งผลกระทบต่อทั่วโลก ในระหว่างการพูดคุยกันเป็นเวลาประมาณ 35 นาทีนั้น ปธน.สีกล่าวกับนายบลิงเกนผ่านล่ามของกระทรวงการต่างประเทศจีนว่า “โลกต้องการความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพระหว่างจีนและสหรัฐ ทั้งสองประเทศสามารถแสวงหาแนวทางที่ถูกต้องเพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีให้กับมนุษยชาติ ผมคาดหวังว่าการเดินทางเยือนประเทศจีนของรัฐมนตรีบลิงเกนในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งการสร้างเสถียรภาพด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ”
หลังเสร็จสิ้นการพบปะกับปธน.สีแล้ว นายบลิงเกนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐบรรลุวัตถุประสงค์ของการเดินทางเยือนจีนในครั้งนี้ในระดับหนึ่ง ซึ่งรวมถึงการหยิบยกข้อกังวลต่าง ๆ ขึ้นมาพูดคุยโดยตรง รวมทั้งพยายามสร้างช่องทางการเจรจาและความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
นายบลิงเคนได้สนทนานานกว่า 7 ชั่วโมง 30 นาทีกับนายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเมื่อวันอาทิตย์ ทั้ง 2 ฝ่ายระบุว่า เป็นการสนทนาอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ พร้อมกับแสดงความปรารถนาที่จะกระชับความสัมพันธ์ โดยตกลงกันว่านายฉินจะไปเยือนสหรัฐเพื่อสานต่อการเจรจาแต่ยังไม่มีการกำหนดวันเวลา อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าการเจรจาไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในประเด็นพิพาทต่าง ๆ ทั้งเรื่องไต้หวัน การค้า สิทธิมนุษยชน และยาเฟนทานิล สื่อทางการจีนรายงานว่า นายฉินกล่าวกับนายบลิงเคนว่า ประเด็นไต้หวันเป็นเรื่องหลักในผลประโยชน์หลักของจีน เป็นประเด็นที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ และเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่สุด.-สำนักข่าวไทย
นอกจากนี้ นายบลิงเกนยังได้เข้าพบปะพูดคุยกับนายหวัง อี้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการต่างประเทศแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยนายหวังกล่าวว่า การที่สหรัฐเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่นครซานฟรานซิสโกในเดือนพ.ย. ถือเป็นโอกาสสำคัญที่สหรัฐจะทำการทบทวนและปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับเอเชีย-แปซิฟิก และจีนพร้อมร่วมมือกับสหรัฐในการมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในภูมิภาค นายหวังแสดงความหวังว่าสหรัฐจะดำเนินการร่วมกับจีนในการนำพาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกไปยังทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งนี้ นายบลิงเกนมีเป้าหมายที่จะหารือกับจีนอย่างสร้างสรรค์และตรงไปตรงมาในการเดินทางเยือนครั้งนี้ โดยคาดหวังว่าอาจเป็นการปูทางให้ปธน.สีเดินทางเข้าร่วมการประชุมเอเปคที่นครซานฟรานซิสโกในเดือนพ.ย. ซึ่งจะทำให้มีการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และปธน.สี หลังจากที่ผู้นำทั้งสองได้พบปะกันในการประชุมสุดยอด G20 ที่อินโดนีเซียในเดือนพ.ย. 2565
ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้แสดงความพอใจต่อผลการเดินทางเยือนประเทศจีนของนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ โดยกล่าวว่าการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้า หลังจากนายบลิงเกนพบปะพูดคุยกับผู้นำจีนในระหว่างการเดินทางเยือน 2 วัน ซึ่งรวมถึงการพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน