พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงประเด็น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้รับทราบแล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้กองบังคับการตำรวจทางหลวง ดำเนินการตรวจสอบโดยด่วน ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีการกระทำผิดในรูปแบบส่วยทางหลวงตามที่ปรากฎตามข่าวหรือไม่ หากพบข้าราชการตำรวจหรือบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงมีคำสั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบข้าราชการตำรวจ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวและ โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.ได้กำชับว่าหากพบว่าข้าราชการตำรวจทำผิดตามหลักฐานจะดำเนินการเด็ดขาดทั้งอาญา วินัย และปกครอง ตามนโยบาย ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดมาต่อเนื่อง ทั้งการไล่ออก ปลดออกตำรวจที่ทำผิดมาตลอด ขอให้สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย หรือพี่น้องประชาชน หากมีข้อมูล พยานหลักฐาน เกี่ยวกับส่วยตำรวจทางหลวง สามารถนำมายื่นโดยตรง หรือจะแจ้งตามช่องทางการร้องเรียนต่างๆก็ได้ ซึ่งไม่เพียงแค่เรื่องส่วยตำรวจทางหลวง หากพบการทุจริตของตำรวจ สามารถแจ้งมาได้ทุกเรื่อง เป็นนโยบายโดยตรงของ ผบ.ตร.ที่สั่งดำเนินการเด็ดขาดกับตำรวจที่กระทำผิดอยู่แล้ว
ขณะที่ในส่วนของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้เข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าว และขอให้มีคำสั่งมาปฏิบัติหน้าที่ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และเปิดทางให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส
พล.ต.ท.จิรภพ จึงได้ลงนามในคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ 172/2566 เพื่อให้ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง มาปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ศปก.บช.ก.) จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้น พร้อมกับลงนามในคำสั่งให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง อีกตำแหน่งหนึ่ง ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มีผลงานด้านการปราบปรามคดีสำคัญที่เกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบของภาครัฐ จึงให้มารักษาราชแทนในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบ และเพิ่มความมั่นใจให้แก่ประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วยโดย พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว จะเป็นไปด้วยความตรงไปตรงมา พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำการทุจริตเป็นอันขาด