
ชาวประมงไทยถูกเรือรบพม่ายิ่งและจับ 31 ตัวประกันไป
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดระนอง (ศรชล.ระนอง) ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 0.45 น. ของวันนี้ (30 พ.ย.) ว่า เรือประมงชื่อ มหาลาภธนวัฒน์ 4 ซึ่งหาปลาอยู่ในน่านน้ำที่ชาวประมงเข้าใจว่าเป็นน่านน้ำไทย ถูกเรือรบเมียนมาทำการใช้อาวุธ ทำให้ตัวเรือได้รับความเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บ 2 คน จึงขอความช่วยเหลือมา จุดเกิดเหตุห่างจากเกาะพยาม ด้านทิศตะวันตกประมาณ 5 ไมล์ทะเล กลุ่มเรือประมงทั้งหมดที่อยู่ในละแวกนั้น จึงพากันตัดอวนทิ้ง และแล่นหนีตายเข้าเกาะพยาม ซึ่งมีเรือตรวจการณ์ไทยลอยลำอยู่ จึงประสานงานให้ เรือ ต.274 เข้าให้การช่วยเหลือเรือประมงทั้งหมดจำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือดวงทวีผล 333 มีลูกเรือ 29 คน ( เสียชีวิต 1 คน ) และ เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 มีลูกเรือ 33 คน (บาดเจ็บ 2 คน) ในส่วนของ การดำเนินการในขั้นตอนต่อไปคือการประสานงานตามกลไกของคณะกรรมการ ในการเจรจานำเรือและลูกเรือประมงกลับสู่ประเทศไทย
ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-เมียนมา ติดต่อประสานงานกับ ผู้บังคับการสถานีเรือ 58 เกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา เพื่อติดตามสถานการณ์เรือประมงและลูกเรือที่ถูกจับกุม ซึ่งทราบว่าเรือรบเมียนมาได้ดำเนินการจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 1 ลำจริง
ทางการเมียนมาอ้างว่า มีกลุ่มเรือประมง ประมาณ 15 ลำ เข้าไปทำประมงในเขตน่านน้ำเมียนมา และจากการตรวจสอบพบว่า เรือประมงทั้ง 15 ลำ เป็นเรือจาก อ.คุระบุรี จ.พังงา ที่เข้ามาหากินทำการประมงในเขตน่านน้ำของ จ.ระนอง ซึ่งอาจไม่ชำนาญพื้นที่บริเวณดังกล่าว
ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารราบที่ 25/ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา จ.ระนอง (ประธาน TBC ฝ่ายไทย) จะมีการประชุมร่วมกับกับคณะกรรมการชายแดนไทยส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมา จ.เกาะสอง (ประธาน TBC ฝ่ายเมียนมา) เพื่อพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงที่ถูกจับกุม พร้อมทั้งขอให้ปล่อยตัวลูกเรือสัญชาติไทยทั้ง 4 คนพร้อมเรือประมงกลับประเทศไทย นอกจากนี้เลขานุการ TBC ฝ่ายไทย ได้มีการประสานงานทางข้างไปยังเลขานุการ TBC ฝ่ายเมียนมาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานกับผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ จ.เกาะสอง
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้รับทราบเรื่องเรือรบประเทศเมียนมายิงเรือประมงไทยโดยอ้างว่ารุกล้ำน่านน้ำเมียนมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเมื่อวันเสาร์แล้ว โดยกล่าวว่าไม่สนับสนุนความรุนแรงในทุกรูปแบบ แต่ได้ตั้งคำถามในประเด็นที่กองทัพเมียนมากล่าวอ้างว่าเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา และว่าทางการไทยยังคงรอรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ รวมทั้งเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวชาวประมง 4 คนจาก 31 คนถูกทางการเมียนมาควบคุมตัว
ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของไทย มาริษ เสงี่ยมพงษ์ ได้ออกหนังสือต่อรัฐบาลเมียนมาแสดงความกังวลเกี่ยวเหตุการณ์นี้ และมีกำหนดการเรียกตัวทูตเมียนมาเข้าพบหารือที่กระทรวงฯ เพื่อขอให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและปล่อยตัว 4 คนไทยที่ถูกควบคุมตัว
เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 2 ธ.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีชาวประมงไทยถูกกองทัพพม่าจับตัวไป หลังจากรุกน่านนํ้าพม่า ว่า ทางคณะกรรมการประสานงานชายแดนท้องถิ่นได้พูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว และในส่วนของกระทรวงต่างประเทศ (กต.) ได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้ว โดยวันนี้ได้เรียกเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยมาหารือ ซึ่งทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการทางการฑูต ในส่วนทางทหาร ยืนยันว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเราไปรุกล้ำจริงหรือไม่ และเรือดังกล่าวเป็นเรือประมงที่ไม่ใช่เรือติดอาวุธ จึงทำหนังสือประท้วงไปว่าทำเกินกว่าเหตุ…
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตก็ดำเนินการตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในบรรดาลูกเรือทั้ง 31 คน มีคนไทยเพียง 4 คน นอกนั้นเป็นคนพม่า ก็ต้องให้ว่ากันไปเอง ซึ่งเราพยายามประสานนำตัวคนไทย 4 คนกลับมา ซึ่งเขาต้องคืนมา เหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นมานานแล้ว 30 ปีแล้ว ซึ่งเส้นแบ่งทางทะเลมักมีปัญหาเช่นนี้ ในอดีตเคยมีครั้งหนึ่งที่เรือไทยจะแล่นอ้อมเข้ามาในประเทศ แต่ทางต่างประเทศเขาบอกว่าต้องขออนุญาต แต่ทางเราก็ยืนยันว่าไม่ต้องขออนุญาต เพราะเป็นเส้นทางผ่านปกติ และที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เพราะบริเวณนั้นเกาะแก่งเยอะ ประชาชนทั้ง 2 ประเทศไปมาหาสู่กัน บริเวณชายแดนก็อะลุ่มอล่วย ซึ่งเราอยากให้พื้นที่ตรงนั้นเป็นที่ทำมาหากินของทั้ง 2 ฝ่าย แม้แต่ละฝ่ายจะยืนยันสิทธิ์ของตัวเอง แต่เราก็ยึดเส้นแบ่งของเรา เพราะฉะนั้น ต้องรอ กต. เจรจาก่อน อย่าเพิ่งไปคาดเดาว่าอะไรเป็นอะไร
ด้านพล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้อาวุธและอำนาจของเมียนมาร์ว่าเกินขอบเขตหรือไม่ และไทยมีอำนาจเข้าไปป้องกันมากน้อยเพียงใด ที่สำคัญคือต้องดูว่าพื้นที่เกิดเหตุอยู่ตรงไหนให้ชัดเจนและสอบถามทางเมียนมาถึงสาเหตุการจับลูกเรือประมงทั้ง 31 คน อีกทั้งต้องดูว่าระหว่างเกิดเหตุมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน เพราะจากที่ได้รับรายงานเรือประมงถูกเรือตรวจการณ์เมียนมาไล่ยิง จึงได้ขอความช่วยเหลือ ก่อนกองทัพเรือส่งเรือออกไป
ทั้งนี้ กองทัพเรือจะตรวจสอบกรณีการใช้อาวุธและอำนาจหน้าที่ของทางเมียนมาว่าเกินขอบเขตหรือไม่ และเรือประมงไทยได้รุกล้ำเขตเข้าไปด้วยหรือไม่ หากพบว่าเมียนมาใช้อำนาจเกินขอบเขตก็จะตอบโต้อย่างชัดเจนต่อไป
ส่วนนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีได้ให้กองทัพเรือประสานเจรจากับกองทัพเรือเมียนมา พร้อมทั้งให้ รมว.ต่างประเทศ กำชับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ประสานกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาโดยด่วนอีกทางหนึ่ง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการแล้ว โดยนายกฯ ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่ามีการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการอย่างเหมาะสม
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร ได้โพสต์ผ่านแอพพลิเคชั่นเอ็กซ์ ถึงกรณีดังกล่าวว่า “กรณีนี้ กมธ.ทหาร จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือชาวประมงไทยอย่างเต็มที่ ทราบเบื้องต้นว่า จุดเกิดเหตุนั้นอยู่ในน่านน้ำไทย ห่างจากเกาะพยาม 5 ไมล์ทะเล คงต้องจี้ถามให้ถึงที่สุดว่า เหตุใดเรือรบเมียนมาถึงมายิงเรือประมงไทยในน่านน้ำไทย และจะรับผิดชอบต่อกรณีนี้อย่างไร”
จากนั้น นายวิโรจน์ โพสต์ว่า “ได้รับรายงานจากอีกแหล่งข่าวหนึ่งว่า จุดเกิดเหตุอาจจะห่างจากเกาะพยาม 12 ไมล์ทะเล และมีความเป็นไปได้ว่าเรือประมงไทยอาจจะล้ำเข้าไป 3 ไมล์ทะเล อย่างไรก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่าง แต่ต่อให้ล้ำจริง การยิงเรือประมง ถ้าเป็นการทำประมงจริงๆ ก็อาจถือว่าเกินกว่าเหตุ”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานกรณีที่ทางการไทยประท้วงเหตุเรือรบของกองทัพเรือเมียนมา ยิงเรือประมงของไทย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 2 ราย และลูกเรือหลายสิบคนถูกควบคุมตัวไว้ ฝั่งรัฐบาลทหารเมียนมา ไม่ได้ตอบกลับการติดต่อขอความเห็นของรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้
ทั้งนี้ เมียนมาเผชิญกับวิกฤตภายในประเทศมาตั้งแต่ปี 2021 หลังกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน และการลุกฮือของกลุ่มแข็งข้อต่อต้านและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ปะทะกับกองทัพเมียนมาอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
https://thailandtoday2020news.blogspot.com/2024/12/31.html






