นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน หวนคืนสู่ทำเนียบขาวเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สอง
การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรครีพับลิกันยังได้ครองเสียงในวุฒิสภาสหรัฐฯ และยังมีคะแนนนำในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรหรือสภาคองเกรส ซึ่งการนับคะแนนยังต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าที่จะทราบผล
ผลการนับคะแนนเลือกตั้งสหรัฐฯ ยังไม่เสร็จสิ้นลง โดยยังเหลืออีก 3 รัฐ ที่ยังไม่ประกาศคะแนน ได้แก่ รัฐเนวาดา, แอริโซนา และเมน ผลการนับคะแนนล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ได้คะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 294 เสียง และกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ได้ไป 223 เสียง นอกจากนี้โดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้คะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งในรัฐสมรภูมิหรือรัฐสวิงสเตท (Swing states) มากถึง 5 รัฐ จากทั้งหมด 7 รัฐ ได้แก่ รัฐนอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, เพนซิลเวเนีย, วิสคอนซิน และมิชิแกน
ซึ่งหลังจากทราบผลนับคะแนนการเลือกตั้งว่า นายทรัมป์ มีคะแนนนำ นายทรัมป์ ได้ออกมากล่าวสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะพร้อมกับกล่าวขอบคุณบุคคลต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ “ผมขอขอบคุณประชาชนชาวอเมริกันที่ให้เกียรติพิเศษในการเลือกผมเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 และคนที่ 45 ของคุณ” ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ต่อกลุ่มผู้สนับสนุนพร้อมกับกล่าวถึงชัยชนะที่มาจากป๊อปปูลาร์โหวต แม้ว่าการนับคะแนนจะยังไม่เสร็จสิ้น แต่ทรัมป์มองว่า ด้วยการคว้าคะแนนเสียงส่วนใหญ่จึงทำให้ตนเองจะคว้าชัยชนะครั้งนี้ “อเมริกาได้มอบอาณัติอันทรงพลังและไม่เคยมีมาก่อนแก่เรา” เขากล่าว ขณะเดียวกันนายทรัมป์กล่าวชื่นชม เจดี แวนซ์ ผู้เข้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่ากลายเป็นตัวเลือกที่ดี ขณะที่แวนซ์ก็กล่าวชื่นชมทรัมป์ว่า ทรัมป์เพิ่งสร้าง “การกลับมาทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา”
ในช่วงหนึ่งของการกล่าวสุนทรพจน์ ทรัมป์ยังกล่าวถึงอิลอน มัสก์ มหาเศรษฐีและนักธุรกิจด้านเทคโนโลยีชื่อดังชาวสหรัฐฯ และเป็นคนที่สนับสนุนทรัมป์อย่างเปิดเผย ว่าเปรียบเสมือน “ดาวดาว” และยังเป็น “บุคคลที่น่าทึ่ง”
นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวถึง โรเบิร์ต เอฟ เคเนดี จูเนียร์ เป็นนัยว่า เขาอาจจะมีบทบาทในส่วนงานนโยบายด้านสาธารณสุขในรัฐบาลของเขาด้วย สำหรับ โรเบิร์ต เอฟ เคเนดี จูเนียร์ เป็นอดีตผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามอิสระ ซึ่งเคยมีประวัติสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่มีมูลเกี่ยวกับวัคซีน แต่ต่อมาในเดือน ส.ค. เขาตัดสินใจถอนตัวออกไปและประกาศรับรองทรัมป์เป็นแคนดิเดตชิงประธานาธิบดีแทน
ด้านรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ให้คำมั่นว่าจะสู้ต่อไปเพื่ออุดมคติซึ่งเป็นแรงผลักดันให้แคมเปญหาเสียงของเธอประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดเมื่อเวลา 16.30 น. ของวันพุธตามเวลาของสหรัฐฯ (ตรงกับเวลา 04.30 น. ของวันที่ 7 พ.ย. ตามเวลาไทย) แฮร์ริส ยอมรับชัยชนะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ “แม้ฉันยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ฉันจะไม่ยอมรับการต่อสู้ที่เป็นแรงผลักให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ” เธอกล่าวกับผู้สนับสนุนโดยที่หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาขณะฟังสุนทรพจน์ของผู้ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
แฮร์ริส มีน้ำเสียงสั่นคลอนเป็นบางช่วง ให้คำมั่นว่าจะสู้ต่อไปเพื่อสิทธิสตรี ต่อต้านความรุนแรงจากอาวุธปืน และต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีที่ทุกคนสมควรได้รับ
เธอกล่าวว่า ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ ทรัมป์ แสดงความยินดีกับชัยชนะของเขาเมื่อวันอังคาร (6 พ.ย.) พร้อมกล่าวว่าจะดำเนินการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ “ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่เราต่อสู้เพื่อ ไม่ใช่สิ่งที่เราลงคะแนนเสียง แต่ฟังฉันเมื่อฉันพูด แสงสว่างแห่งคำสัญญาของอเมริกาจะส่องประกายอยู่เสมอ” เธอกล่าวการกล่าวปราศรัยครั้งนี้มี ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา คู่หูชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดีของเธอ และ แนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ช่วยในทำเนียบขาวของประธานาธิบดีโจ ไบเดน รวมอยู่ในกลุ่มฝูงชนที่มารอฟังคำกล่าวของ แฮร์ริส ด้วย
แฮร์ริส ให้กำลังใจผู้สนับสนุนของเธอ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวว่า “อย่าสิ้นหวัง” และ “นี่ไม่ใช่เวลาที่จะยอมแพ้ แต่นี่คือเวลาที่จะลุยเต็มที่” เธอกล่าวว่า นี่คือเวลา “ที่จะจัดระเบียบ ระดมพล และมีส่วนร่วมเพื่อประโยชน์ของเสรีภาพและความยุติธรรม และอนาคตที่เราทุกคนรู้ว่าเราสามารถสร้างร่วมกันได้” เธอเรียกร้องให้ผู้สนับสนุน “เติมเต็มท้องฟ้า” ด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยมไปด้วยดวงดาวนับพันล้านดวงที่เจิดจ้า แสงแห่งความหวัง ความศรัทธา ความจริง และการรับใช้
กล่าวโดยสรุปเส้นทางการหาเสียงของทรัมป์ต้องถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ แม้ว่าคะแนนโหวตชุดท้าย ๆ ยังคงถูกนับอยู่ แต่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ในรัฐสมรภูมิได้เลือกที่จะโหวตให้กับเขา โดยหลายคนชี้ว่าความกังวลหลักคือเรื่องเศรษฐกิจและผู้อพยพ.
In this election, the Republican Party still has a majority in the U.S. Senate and a majority in the House of Representatives or Congress. It will take several days for the vote to be counted.
The results of the U.S. election tally have not yet been finalized, with three unannounced states remaining: Nevada, and the United States. Arizona and Maine, the latest tally, Donald Trump of the Republican Party won 294 votes for the electorate and Gala Harris of the Democratic Party won 223 votes. Donald Trump also won the electorate in up to five of the seven states: North Carolina, Georgia, Pennsylvania. Wisconsin and Michigan.
After learning of the election results that Mr. Trump had the lead, Mr. Trump came out in his victory declaration speech while thanking the individuals behind the success. “I thank the American people for their special honor in choosing me as your 47th and 45th president.” Trump delivered a speech to the supporters while mentioning the victory from Popular Vote. Although the count has not been finalized, Trump sees that by winning the majority vote, he will win this victory. “America has given us a powerful and unprecedented mandate,” he said. At the same time, Trump praised JD Vance, the U.S. vice presidential candidate. It turned out to be a good choice as Vance praised Trump that Trump recently created “the greatest political comeback in American history.”
During one of his speeches, Trump also referred to Elon Musk, a famous U.S. billionaire and technology businessman who openly supports Trump, as being like a “star” and also an “amazing person.”
Trump also implied that he might play a role in public health policy in his government. Robert F. Kennedy Jr. was an independent former presidential candidate who had a history of supporting vaccine-based conspiracy theories, but later in August, he said. C. He decided to withdraw and declared Trump’s approval as presidential candidate instead.
Vice President Gala Harris pledged to continue fighting for ideals that drove her campaign to succeed in the U.S. presidential election during a speech at Harvard University at 4:30 p.m. on Wednesday U.S. time (corresponding to 4:30 p.m. on May 7. Y.) Harris acknowledged Donald Trump’s victory as the new president, “Although I accept this election, I will not accept the battle that drove the campaign to success.” She told supporters, with many even shed tears while listening to the speech of the presidential chair challenger from the Democratic Party.
Harris, in a somewhat shaky voice, pledged to continue fighting for women’s rights, fight gun violence and fight for the dignity everyone deserves.
She said she made a phone call with Trump, congratulating him on his victory Tuesday (6 May). Y) Ready to say a peaceful transfer of power. “The outcome of this election is not what we want, not what we fight for, not what we vote for, but listen to me when I speak. The light of America’s promise will always shine,” she said. This speech was attended by Minnesota Governor Tim Walsh, her vice presidential counterpart, and Nancy. Pelosi, former Speaker of the House of Representatives, a White House aide to President Joe Biden, was also among the crowds waiting to hear Harris say.
Harris encouraged her supporters, especially young people, saying, “Don’t despair” and “This is not the time to give up, but this is the time to go full-fledged,” she said. This is the time “to organize, mobilize and participate for the sake of freedom and justice, and the future we all know we can build together.” She called on supporters “Fill the sky.” With hope full of billions of bright stars, the light of hope, faith, truth and service.
In summary, Trump’s campaign trail must be recorded in the history books, although the final votes are still counted, most Americans in the warring states have chosen to vote for him, with many pointing out that the main concern is economic and immigrant concerns.